เรียนรู้เรื่อง"ปุ๋ย"

Saturday, September 11, 2010

ปุ๋ย
         ปุ๋ยที่มีอยู่ตามท้องตลาดทั่วๆไป  เราจะเห็นว่ามันมากมายหลากหลายยี่ห้อ จนไม่รู้จะเลือกแบบไหนไปใช้ถูกดี ส่วนมากก็ใช้ๆตามการบอกเล่าหรือเห็นคนอื่นๆใช้ก็ใช้ตาม แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่เอามาใช้เหมือนเขาทุกอย่าง ของเขาได้ผลผลิตดีมาก แต่ของตัวเองมันตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง หลายคนก็โทษชะตาฟ้าลิขิต แอ๊ะ….หรือว่าเราคงจะไม่เหมาะกับการทำการเกษตร อย่างเราฟ้าน่าจะลิขิตมาให้เป็นผู้บริหารหรือเปล่าน้อ….
         คงจะไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ ก่อนอื่นเราต้องถามตัวเองก่อนว่ารู้จักปุ๋ยดีแค่ไหน ในถุงที่เราซื้อมามันมีอะไรอยู่บ้าง และมันเหมาะกับพืชที่เราปลูกอยู่หรือเปล่า ไม่ใช่ปลูกมันสำปะหลังอยู่แต่เอาปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 มาใส่อย่างเดียว ก็เห็นยายโอลีฟเขาปลูกผักกาด แกก็ใช้ปุ๋ยอันนี้ มันสวยดี ก็เลยซื้อมาใส่ไร่มันสำปะหลังดูบ้าง อย่างนี้ปลูกกี่ร้อยปีมันก็ไม่มีหัวตามที่ต้องการหรอกครับ ฉนั้นก่อนที่เราจะทำการเกษตรหรือทำไปแล้วแต่ไม่รู้จักปุ๋ยเลย เรามาเรียนรู้กันครับเพื่อจะได้เลือกใช้ปุ๋ยที่ถูกต้องและได้ผลบรรลุวัตถุประสงค์ของเราได้มากที่สุด ปุ๋ยที่มีขายในท้องตลาดทั่วๆไปมีด้วยกัน 3 ประเภท คือ
                           1.ปุ๋ยเคมี
                          2.ปุ๋ยชีวภาพ
                          3.ปุ๋ยอินทรีย์
          ปุ๋ยเคมี
           ปุ๋ยเคมีจะมีธาตุอาหารหลักด้วยกัน 3 ธาตุ จากธาตุอาหารทั้งหมด 16 ธาตุที่พืชต้องการ ประกอบด้วย
                          1.ไนโตรเจน (N) ให้ความเขียว เร่งการเจริญเติบโตและเพิ่มผลผลิต
                          2.ฟอสฟอรัส (P) ช่วยทำให้ควบคุมการออกดอก ออกผล
                          3.โปแตสเซียม (K) ช่วยทำให้ผลใหญ่ สร้างแป้งและน้ำตาล ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพดี
           ปุ๋ยเคมีที่ขายในท้องตลาดก็จะมีทั้งแบบเดี่ยว กับแบบผสม
แบบเดี่ยว เช่น ปุ๋ยสูตร 46-0-0 , 0-46-0 , 0-0-60 เป็นต้น
แบบผสม เช่น ปุ๋ยสูตร 16-20-0 , 15-15-15 , 16-16-8 เป็นต้น
           ส่วนผสมในปุ๋ยเคมีใน 1 กระสอบมีอะไรบ้าง ตัวอย่างเช่น ปุ๋ยสูตร 16-20-0 ในน้ำหนัก 100 กิโลกรัม จะมีเนื้อปุ๋ย 36 กิโลกรัม นอกนั้นก็จะเป็นสารเติมเต็ม 64 กิโลกรัม เพราะฉนั้นปุ๋ยที่บรรจุขายอยู่ 50 กิโลกรัม จึงมีเนื้อปุ๋ยจริงๆแค่ 18 กิโลกรัมเท่านั้นที่เหลือผสมอยู่ในถุงก็เป็นสารเติมเต็มพวก อิฐ หิน ดิน ทราย ต่างๆ เหตุที่ต้องผสมสารเติมเต็มลงไปเพราะว่า ปุ๋ยเคมีไม่สามารถที่จะนำไปใช้กับพืชได้ 100% พืชจะตายหมด ทุกปีที่เรานำปุ๋ยเคมีไปใส่ไร่ใส่นา เราจึงนำเศษอิฐ เศษหินไปใส่ด้วยนานวันเข้าสารเติมเต็มพวกนี้จึงตกค้างอยู่ตามดิน ทำให้ดินแน่นเสื่อมคุณภาพ
Picture001
 Picture002
เมื่อดินเสื่อมสภาพ(เป็นกรด) ดินที่เป็นกรดจะสลาย 3 ธาตุอาหารทิ้ง คือ แคลเซียม แม็กเนเซียม และก็โปแตสเซี่ยม
          ปุ๋ยชีวภาพ
Picture003
          ปุ๋ยอินทรีย์
Picture004
Picture005
Picture006
Picture007
Picture014
Picture015
     ปุ๋ยอินทรีย์ข้างถุงกระสอบจะไม่มีสูตรกับกับเหมือนปุ๋ยเคมี ถ้าเขียนสูตรกำกับกฎหมายจะตีให้เป็นปุ๋ยเคมีทันที การเลือกซื้อปุ๋ยอินทรีย์นอกจากจะดูเรื่องเลขทะเบียนและสถานที่ตั้งบริษัทต่างๆแล้วต้องดูที่ค่าอินทรีย์วัตถุ OM (Organic Matter) ที่อยู่ข้างกระสอบต้องไม่ต่ำกว่ากฎหมายกำหนดขั้นต่ำที่ 30% ค่า OM ตัวนี้ยิ่งมากยิ่งดี
คุณสมบัติของธาตุอาหารปุ๋ย 
ธาตุอาหารที่พืชต้องการรวมทั้งหมด 16 ธาตุ             ธาตุอาหารหลัก ไนโตเจน (N) ฟอสฟอรัส (P)โพรแทสเซี่ยม (K)
     ธาตุอาหารรอง  แคลเซี่ยม (Ca)แมกนีเซี่ยม (Mg) โบรอน (B) กำมะถัน (S)
     ธาตุอาหารเสริม ทองแดง (Cu) สังกะสี (Zn) โมลิบดินั่ม (Mo) เหล็ก (Fe) แมงกานีส (Mn)คลอลีน(CL)

     อีก 3 ชนิดได้จากธรรมชาติหรืออากาศ คือ   ออกซิเจน  คาบอนไดออกไซด์  และไฮโตรเจน
ธาตุอาหารหลัก(ส่วนมากปุ๋ยเคมีจะมีเฉพาะ 3 ธาตุนี้)
re2
re3
re4
ธาตุอาหารรองและธาตุอาหารเสริม
re5
re6
re7
re8
re9
re10
ลักษณะการขาดธาตุอาหารของพืช
Picture14
Picture15
Picture16
Picture11
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประบอกจาก บริษัทเจริญโอสถ อินเตอร์เนชั่นแนลเน็ทเวิร์ด จำกัด
ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติ่มได้ที่  coinclub.blogspot.com
        ธุรกิจง่ายๆ ไม่ต้องเดินขาย ของไม่ต้องซื้อของรักษายอด ไม่ต้องจบการศึกษาสูงๆที่ท่านและใครๆก็ทำได้ ดูเพิ่มเติมกด

No comments:

Post a Comment